วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

ชีวิต เขาและเรา หลอมรวม

ชีวิตของเขา รู้จักเขาให้มาก ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น และเมื่อได้สัมผัส สังเกต และรับฟัง แล้วตอบสนอง
ชีวิต ของเรา ร่างกายพร้อมสำหรับ 4 วัน 3 คืน ความคิดเข้าใจความสัมพันธ์ การสนทนา และการจับประเด็น ความรู้สึกเชื่อมั่นในวิธีการสร้างสรรค์ปัญญาร่วม




เราไม่อาจรู้จักชีวิตอันซับซ้อนยุ่งเหยิงได้ทั้งหมด ร่างกาย ความคิด ความรู้สึก การกระทำ ของแต่ละคนเป็นสิ่งล้ำค่า ไม่เหมือนกันและไม่มีวันเหมือน มีงานศึกษามากมายพยายามทำให้เกิดความเหมือนกัน จัดกลุ่ม จัดพวก จัดความสัมพันธ์ จัดวางแล้วมุ่งหน้าบริหารทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของการจัดเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสังคม เศรษฐกิจ หรือการเมือง เราไม่อาจทำให้ทุกคนคิดและทำเหมือนกันได้ ปัจจเจกชนมีเส้นทางของเขาเอง เราไม่อาจเอาความคิดไปใส่ในตัวเขาได้ ในการสัมมนาก็เช่นกัน รับหรือไม่รับเป็นเรื่องของเขาโดยแท้ "ประสบการณ์เบื้องหลัง ความหวังเบื้องหน้า และความพยายามในปัจจุบัน หล่อหลอมคน" ชีวิตดั่งนี้จึงเคลื่อนไป เคลื่อนไปในความแปลกใหม่เสมอ
คนที่ไม่เหมือนกัน เมื่อมาประชุมสุมรวมกัน กายสัมผัสกาย ใจสัมผัสใจ ความคิด ความเชื่อ ประสบการณ์ ปะทะสังสรรค์แล้วหลอมรวมหรือแปลกแยก ในประชุมชนจะเกิดความรู้สึกศรัทธาเหนี่ยวนำ ความคิดเลื่อนใหลเชื่อมโยง กระแสความรู้ประสบการณ์พรั่งพรู จะเป็นดั่งนี้ได้ต้องมีสภาพแวดล้อมอันถูกจัดวาง เพราะเกราะกำบังและสิ่งยึดโยงเหนี่ยวรั้งผู้คนให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ปลอดภัยในแบบของตน นิ่งงันเงียบเฉยแปลกแยก ปกป้องระแวงภัย ข่ายใยไม่ก่อตัวไร้ความสัมพันธ์อันเลื่อนใหล ประสบการณ์ความรู้หลบซ่อน ประชุมชนไร้ชีวิตปัญญาร่วมไม่ก่อตัว ปัจจเจกชนจึงต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเป็นปฐม ผ่อนคลายในท่ามกลาง และไว้วางใจในที่สุด ประชุมชนจึงมีชีวิตชีวา
พื้นที่ที่ปลอดภัยจากคำตัดสิน ตำหนิ หมิ่นแคลน ผ่อนคลายด้วยการใส่ใจดูแลเอื้อเฟื้อเกื้อกูล ไว้วางใจในการชื่นชมไร้การเสแสร้ง พื้นที่ดังนี้ประสบการณ์ย่อมพรั่งพรู แล้วข่ายใยชีวิตก็ก่อตัวขึ้น
ประสบการณ์และสัุญชาตญาณ สอนให้เราคาดเดาผู้คน สีหน้า ท่าทาง แววตา คำพูด ฯลฯ
คาดเดาถูกบ้างผิดบ้าง เพียงแค่คาดเดาไม่ตัดสิน คำนึงไว้เสมอว่า "ชีวิตเปราะบางและสัมผัสไว" ชีวิตจึงมีกลไกไวต่ออันตรายและตอบโต้ต่อต้านเป็นอัตโนมัติ เมื่อกลไกนี้ทำงานยากที่จะปิดลงได้ อ่อนโยน น้อมน้อม เมตตา อดทน "ชีวิตที่เปราะบางและสัมผัสไว"จึงผ่อนคลายและเรียนรู้ สัมพันธภาพลื่นใหล สัมผัส สังเกต สีหน้า ท่าทาง แววตา คำพูด ฯลฯ สนองตอบ อย่างพอดี ช้าเร็วหนักเบา ตามภาวะนั้นๆ นั่นคือศิลป์แห่งความสัมพันธ์ คำนึงเสมอว่า "ชีวิตนั้นเปราะบางสัมผัสไว" แตกสลายง่ายเชื่อมประสานยาก
สัมผัสในสัมพันธ์ของกันและกันจะก้าวไปด้วยดีบนเส้นทางแห่งความอ่อนโยน น้อมน้อม เมตตา อดทน เวลาจะบ่มเพาะเชื่อมประสานความสัมพันธ์จะผลิบาน ข่ายใยแห่งชีวิตสอดรับกันไป ชีวิตไม่ได้ต้องการอะไรทางความรู้สึกมากไปกว่า รัก เข้าใจ และยอมรับ บนเส้นทางที่ไร้เงื่อนไข รัก เข้าใจ ยอมรับกันและกัน ความสัมพันธ์จึงผสานกลมเกลียว ไร้เงื่อนไขจึงไร้สิ่งยึดโยงความคิดไม่ตัดสิน ยอมรับความคิดที่ต่างออกไปเพราะไม่มีอะไรแตกต่างเมื่อไร้สิ่งยึดโยงชี้วัด เมื่อนั้นใจย่อมไร้ความรังเกียจเหยียดหยามหมิ่นแคลนใจขยายใหญ่เข้าใจมนุษย์เห็นใจสัมผัสใจเขาที่เรามุ่งสัมพันธ์ เมื่อนั้นกายจึงปราศจากความกลัว กล้าลงมือทำนำตนไปสู่สิ่งใหม่ ใหม่เสมอในข่ายใยแห่งความสัมพันธ์อันซับซ้อน เมื่อนั้นทุกสิ่งจะเผยตนออกมาในกระแสประสบการณ์และความรู้ กระแสที่ประสานกลมเกลียว ความคิดความรู้สึกและการกระทำผ่อนคลาย โลกที่รวดเร็ว เร่งรีบ บีบคั้น ขันแข่ง ก็จะช้าลง หลากสิ่งที่บ่มเพาะจะหลอมรวมในความผ่อนคลายและสนุกกระตุ้นความสงสัยใคร่รู้ สู่การคิดใคร่ครวญต่อเนื่อง ผุดบังเกิดปัญญาร่วม บางสิ่งที่สัมผัสเปลี่ยนไป สู่สิ่งใหม่อันเป็นประโยชน์ต่อ เรา เขา และโลก (อิสสา และมัฉริยะ ปราศนาการไป) 

ข่ายใยชีวิตงดงามดังนี้
ข่ายใยชีวิตจึงดำเนินไปบนพื้นที่ปลอดภัยด้วยความอ่อนโยน น้อมน้อม เมตตา และอดทน
ดำเนินไปอย่างไร้เงื่อนไขสิ่งยึดโยง ไม่มีการตัดสิน
ดำเนินไปบนความรัก เข้าใจและยอมรับ ไม่หมิ่นแคลนหยามเหยียด
กล้ากระทำอย่างไร้ความกลัวฉุดรั้ง
ด้วยความศรัทธาต่อชีวิตมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม เชื่อมั่นว่าการสนทนาคือวิถีทางที่เราจะคิดร่วมกัน มันอาจยุ่งยากในบางครั้งแต่เราจะผ่านได้ด้วยความอ่อนโยน นอบน้อม เมตตาและอดทน เราจะช่วยเหลือกันเพื่อให้การสนทนาการรับฟังเป็นไปด้วยดี เราเชื่อว่าความผ่่อนคลายบนพื้นที่ปลอดภัยนำมาซึ่งพลัง พลังของกระแสความลื่นใหลของความคิด หลากหลายมุมมองผสมผสานถั่งโถมไปในทางเดียวกัน ข่ายใยชีวิตสอดผสาน กระแสความคิดหลั่งใหลสิ่งใหม่ก่อบังเกิดเป็นปัญญาร่วมอันยังประโยชน์ต่อไป
โลกจึงงดงามดั่งนี้

วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2559

ก่อนเดินไปบนเส้นทาง

เราจินตนาการเกี่ยวกับการเดินทาง ภาพผู้คนที่มาร่วมกัน ก่อสร้างข่ายใยแห่งมิตรไมตรี ท่ามกลางความผ่อนคลาย การสนทนา ขีดเขียนเล่น ภาพ อักษร เกิดขึ้น หลอมรวมเป็นปัญญาร่วม 

ก่อนเดินไปในเส้นทางนั้น เราต้องเตรียมอะไรบ้าง
 

เตรียมสิ่งที่จะสร้างบรรยากาศให้ความงอกงามของปัญญาได้เกิดขึ้น
จากวัตถุ เช่น สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์ และอื่นๆ
จากชีวิต เช่น ชีวิตของเราและของเขา ร่างกาย ความคิด ความรู้สึก
 

สถานที่ ปรับห้องให้เป็นร้านกาแฟ โต๊ะพร้อมเก้าอี้ 4 ตัว จำนวนพอกับ ผู้เข้าร่วม(รวมทั้งผู้จัด) จัดมุมเครื่องดื่มอาหารว่างตกแต่งให้น่ารับทานสวยงาม  จัดที่แสดงผลงาน จัดเพื่อให้ผ่อนคลายและใกล้ชิด เพื่อความคิดที่เลื่อนใหล
รูปจาก http://blog.worldcafe-europe.net/wp-content/uploads/Tables-all-ready-for-dialogue-to-begin.jpg

เตรียม ที่ติด Flip chart กระดาษ Flip chart กระดาษสีขนาดแต่างๆ กระดาษ A4 อุปกรณ์การเขียน แบบต่างๆ ปากกาเมจิก ปากกา Marker สองหัว สีดินสอ สีเทียน เพื่อขีด เขียน วาดภาพสื่อความคิด เตรียมผนังเพื่อติดผลงาน อุปกรณ์ติดผลงาน กระดาษกาว เทปใส เข็มหมุด จำนวนตามความเหมาะสม
 
 รูปจาก http://www.theworldcafe.com/wp-content/uploads/2007/06/6a00d83453f98769e200e54f171bc18833-800wi.jpg

รูปจาก http://warmattwentybelow.com/wp-content/uploads/2014/10/world-cafe-1.jpg

ชีวิตของเขา รู้จักเขาให้มาก ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น และเมื่อได้สัมผัส สังเกต และรับฟัง แล้วตอบสนอง
ชีวิตของเรา ร่างกายพร้อมสำหรับ 4 วัน 3 คืน ความคิดเข้าใจความสัมพันธ์ การสนทนา และการจับประเด็น ความรู้สึกเชื่อมั่นในวิธีการสร้างสรรค์ปัญญาร่วม 


ชีวิตเขาและเรายังไม่จบแค่นี้ มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เริ่มต้นเพื่อหลอมรวม และสร้างสรรค์ปัญญาร่วม

วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2559

เส้นทางสู่จุดหมาย

เรามีความหวังที่จะไปถึงในอนาคต ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง เราเรียนรู้จากอดีต รู้สึกในปัจจุบัน แล้วแสวงหาเส้นทาง
เส้นทางที่จะเชื่อมโยงความรู้ในผู้คนเพื่อสร้างปัญญาร่วม
มีวิธีการบางประการน่าสนใจ วิธีการสร้างปัญญาร่วมจากการสนทนาแบบ World Cafe

The World Cafe : Shaping Our Futures Through Conversations That Matter.
สภากาแฟ สนทนาก่อพลังปัญญาสร้างอนาคต
รูปจาก http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/393/12393/images/worldcafe/WorldCafeBook.jpg
เวิลด์ คาเฟ่ นำเราคืนสู่โลกที่ถูกลืมเลือนไปแล้ว นั่นคือโลกที่ผู้คนมารวมกันตามธรรมชาติ...โลกที่เราไม่ได้ถูกแยกจากกัน แบ่งชนชั้น หรือจัดเข้าพวก โลกของการทักทายธรรมดา โดยปราศจากการปรุงแต่งหรือใช้เทคโนโลยี โลกที่ทำให้เราอัศจรรย์ใจอยู่เนืองๆ จากปัญญาที่มิใช่อยู่ในคนใดคนหนึ่ง หากแต่อยู่ในพวกเราทุกคน และโลกที่เราเรียนรู้ว่า ปัญญาซึ่งเราปรารถนาสำหรับใช้ไขปัญหานั้น จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราได้มาพูดคุยกัน 
คำเกริ่นนำ หน้า 21-22



รูปจาก http://wikis.evergreen.edu/civicintelligence/images/9/91/Worldidprinciples.jpg
ตุ๊ดตู่ ร่าเริง แปลความ และตกแต่งเพิ่มเติมภาษาไทย
ถ้าเราจะก้าวไปสู่จุดหมายโดยใช้กระบวนการนี้เราต้องทำอย่างไรบ้าง ในหนังสือให้หลักการ 7 ประการ และนำเสนอด้วยตัวอย่างมากมายที่มาจากประสบการณ์ตรงของผู้เข้าร่วม "สภากาแฟ" เช่นนี้
หลัก 7 ประการประกอบด้วย
หลักการข้อที่ ๑: กำหนดบริบท
หลักการข้อที่ ๒: สร้างพื้นที่แห่งมิตรไมตรี
หลักการข้อที่ ๓: สำรวจคำถามอันสำคัญ
หลักการข้อที่ ๔: สนับสนุนทุกคนให้มีส่วนร่วมสมทบ
หลักการข้อที่ ๕: การผสมเกสรทางความคิดข้ามกลุ่มและเชื่อมโยงมุมมองอันหลากหลาย
หลักการข้อที่ ๖: ร่วมกันฟังเพื่อหาแบบแผน ความเข้าใจ และคำถามที่ลึกลงไป
หลักการข้อที่ ๗: เก็บเกี่ยวและแบ่งปันสิ่งที่ร่วมกันค้นพบ

ภาพจาก http://www.greenworldtrust.org.uk/Images/groups/wCafeBig.gif
นอกจากหลักการที่เต็มไปด้วยตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงแล้วยังให้แนวทางสำคัญ เช่น ศิลปะของการเป็นเจ้าภาพการสนทนา การหว่านเพาะปัญญาร่วมการสร้างวัฒนธรรมการสนทนา เป็นต้น

ลองทำความรู้จัก เพิ่มเติมผ่าน ครูยู

World Cafe Guidelines & Principles


What is World Cafe?



Seven Principles of World Cafe

 



ลองดูบรรยากาศบ้าง ดูกระบวนการ


ลองจินตนาการถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนะครับ สิ่งที่จะนำเราไปสู่จุดหมาย

เรานำนักนวัตกรรมมาจากหลายทิศทาง หลายอาชีพ หลากหลายเพศวัยมาอยู่ร่วมกันเป็นเวลา 4 วัน สิ่งที่นักนวัตกรรมเหล่านั้นมีคือประสบการณ์อันทรงคุณค่ามันเป็นความรู้แฝงฝังอยู่ในตัวของเราเป็นเพชรล้ำค่าที่จะนำมาหลอมรวมกันในเวลาแห่งความปิติยินดี

รูปจาก http://www.victoriafoundation.bc.ca/sites/default/files/uploads/Happiness_Index/World%20Cafe/World-Cafe-community-big.jpg
เราเริ่มวันแรก
วันแรกแห่งการพบกันเป็นการทำความรู้จักคุ้นเคย โดยกิจกรรม Action Learning จะนำพวกเขาให้คุ้นเคย เข้าใจ รัก และยอมรับกันและกัน
เรานำเขาสนทนาเกี่ยวกับเรื่องที่เขาทั้งหลายได้กระทำในงานประจำสู่นวัตกรรมที่เขาสร้าง เขาเหล่านั้นได้เปิดเผย ปลดปล่อย เขาฟังกันและกัน ประเด็นคำถามผุดขึ้น เขาเป็นนักปฏิบัติที่ช่างสงสัยตั้งคำถามที่ปลุกเร้า ท้าทายและให้ภาพฝัน เขาฟังสัญชาตญาณ เหตุผล และความรู้สึก แล้วแจ่มชัดในสิ่งที่ต้องการร่วมกัน เวลานั้น คำถามสำคัญจะเปิดเผยตัวออกมา เป็นคำถามที่ปลุกเร้า ท้าทายและให้ภาพฝันร่วมกัน ร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตของนักนวัตกรรม
บรรยากาศแห่งความไว้วางใจ ไร้เงื่อนไข พื้นที่ปลอดภัย ความผ่อนคลายจะทำให้การเรียนรู้สร้างสรรค์ร่วมกันนำสู่ปัญญาร่วมได้ กระบวนการที่ใช้เราใช้สุนทรียสนทนา
วันนี้เราได้บรรยากาศแห่งมิตรไมตรี ทดลองการฟัง การแสดงความคิดจากประสบการณ์ การเข้าใจในกันและกันมากขึ้น เราสร้างข่ายใยแห่งชีวิตถักทอผ่านกาลเวลาที่สั้นแต่แยึดโยงข็งแรง และสิ่งสำคัญเราได้คำถามสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างสรรค์ปัญญาร่วมต่อไป
เราจบวันแรกเพื่อก้าวสู่วันที่สอง

รูปจาก http://www.victoriafoundation.bc.ca/sites/default/files/uploads/Happiness_Index/World%20Cafe/World-Cafe-Helliwell-big.jpg
วันที่สอง และวันที่สาม
เรายังคงใช้ กิจกรรม Action Learning เป็นสื่อสานสายใยแห่งชีวิต เราเริ่มกระบวนการ เดอะเวิลด์คาเฟ่
บรรยากาศสภากาแฟ โต๊ะกาแฟ 4 ที่นั่งกระจายทั่วพื้นที่ เคาเตอร์กาแฟ เครื่องดื่ม ขนมนมเนย พ้รอมให้บริการ กระดาษบันทึกและเครื่องเขียนหลากหลายชนิดหลากหลายสีพร้อมประจำโต๊ะและมีให้เพ่ิมเติม ผู้คนร่วมให้ความคิดประสบการณ์ จดจ่อต่อคำถามที่อยู่บนโต๊ะ ฟังเพื่อที่จะเข้าใจ เชื่อมโยงแนวคิดไอเดีย ฟังกันและกันเพื่อให้เห็นถึงแบบแผน เข้าใจอย่างลึกซึ้งและเจาะลึกลงในคำถาม เล่น ขีดเขียน วาดรูป ผู้คนหมุนเวียนไปตามโต๊ะต่างๆ เมื่อเวลามาถึง การสนทนาผ่านไปท่ามกลางความผ่อนคลาย ไม่เร่งรีบ ปัญญาปฏิบัติปลอปล่อยและเชื่อมโยง แบบแผนปรากฎเข้าใจลึกซึ้ง เชื่อมต่อได้ถึงแก่น จากโยงใยที่มีชีวิต ด้วยคำถามที่ดึงดูด จากมุมมองที่หลากหลาย ผสมผสานกันเป็นความผุดบังเกิดแห่งปัญญาร่วม
ปัญญาจากหนึ่งสู่หลากหลาย และจากหลากหลายรวมเป็นหนึ่ง เป็นปัญญาร่วม

รูปจาก http://www.krauthammer.com/sites/default/files/uploads/etiquette_1.jpg

รูปจาก https://whatcomfamilycommunitynetwork.files.wordpress.com/2011/12/wp_001784.jpg
รูปจาก http://www.alvarezporter.com/wp-content/uploads/world-caf%C3%A9.png
เราจบวันที่สองและสามด้วยปัญญาร่วมบางประการ เป็นภาพ เป็นข้อความ เป็นถ้อยคำ เป็นปัญญาร่วม
รูปจาก http://www.victoriafoundation.bc.ca/sites/default/files/uploads/Happiness_Index/World%20Cafe/World-Cafe-personal-big.jpg
วันที่สี่วันสุดท้าย
เรายังคงเล่น คิด ขีดเขียน ต่อเพื่อให้ได้ข้สรุปที่จะนำไปใช้ต่อได้ ระหว่างสามวันที่ผ่านมา สิ่งที่ผ่านเป็นประสบการณ์เป็นความรู้แฝงฝังอยู่ในบุคคล เป็นปัจจเจก มีข้อสรุปร่วม และยังคงมีคำถามในใจของผู้คน ผ่านเวลามาเราขอให้แต่ละท่านบันทึกความรู้ประสบการณ์ที่ได้ไว้ และนำมาแลกเปลี่ยนเติมเต็มให้กันและกัน
สุดท้ายเราก็จะจากกันเพื่อไปภารกิจของแต่ละบุคคลไป เราจากไปแต่โยงใยแห่งชีวิตยังคงสัมผัสถึง เราจะไม่เดียวดายต่อไป เราอาจนำวิธีการนี้ ประสบการณ์นี้ ปัญญาร่วมนี้ไปขยายแพร่กระจายต่อไป
จบวันที่สี่

จินตนาการนี้น่าสนุก ท้าทาย เราจะทำให้เป็นจริงร่วมกัน

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2559

เดินทางบนความเปลี่ยนแปลง


โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เราผู้อาศัยต้องปรับให้ทันและล้ำหน้าความเปลี่ยนแปลง หรือเราจะเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง โลกเปลี่ยนแปลงเพราะตอบสนองเรา หรือเรามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลก
ชีวิตเราประกอบด้วยเซลหลายเชล ที่มีความแตกต่างกันมารวมกันเป็นชีวิตที่ดำเนินอยู่ เซลหนึ่งตายไปอีกเซลหนึ่งมาแทนชีวิตสืบต่อดังนี้ องค์กรของเราก็เช่นกันประกอบด้วยผู้คนที่มีความแตกต่างกันมารวมกันเป็นองค์กรที่ดำเนินอยู่ คนหนึ่งออกไปอีกคนหนึ่งเข้ามาความสืบเนื่อง(สันคติ)ขององค์กรก็เป็นเช่นนี้ เป็นธรรมชาติธรรมดาที่ดำเนินไป
การดำรงอยู่ในสภาพแวดล้อมดั่งนี้ทำให้เราปรารถนาที่จะได้รับการยอมรับในความเป็นเลิศเป็นองค์กรชั้นนำ ระบบมากมายได้ถูกนำเข้ามา เครื่องมือทางการบริหารที่ว่าดีได้ถูกบรรจุไว้ในทุกองคาพยพขององค์กร จากภารกิจเดิมเพิ่มเติมสู่ภารกิจใหม่ จากสถานที่เดิมสู่สถานที่ใหม่ จากเทคโนโลยีเดิมสู่เทคโนโลยีใหม่ พัฒนาสั่งสมและสร้างองค์ความรู้อยู่อย่างต่อเนื่อง
 


ในปัจจุบันสภาพแวดล้อมที่กดดัน ท้าทาย ทำให้เราพยายามอีกครั้งที่จะทำให้องค์กรของเรามีชีวิตที่ยาวนานต่อไป เราพยายามปรับตัวจากองค์กรที่ใช้ความรู้ไปสู่องค์กรแห่งนวัตกรรม มุ่งเน้นลูกค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองต่อภารกิจที่ซับซ้อนและยุ่งยากขึ้นไปทุกวัน เราสืบค้นรับรู้ความต้องการของลูกค้า สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์และเครื่องมือเพื่อการทำงานที่เที่ยงตรงเชื่อถือได้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยปรับวัฒนธรรมองค์กร สร้างคนค้นคิดปรับปรุง สร้างบรรยากาศโดยมุ่งเน้นทัศนคติที่เป็นผลดีต่อการพัฒนานวัตกรรม ให้การสนับสนุนรวมทั้งสร้างระบบการแสวงหาเทคโนโลยี ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความสามารถหลักในการดำเนินธุรกิจให้เข็มแข็งยิ่งใหญ่และยั่งยืน







เพื่อบรรลุภารกิจเราวางแผนที่จะใส่ความพยายามไปในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง


เราหวังผลให้ผู้คนในองค์กรเป็นนักนวัตกรรมที่สร้างองค์กรแห่งนวัตกรรม เป็นองค์กรที่แข็งแรงยิ่งใหญ่และยั่งยืนต่อไป 

ปัจจุบันเรามีนวัตกรรมมากมาย ที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักนวัตกรรมสร้างสรรค์จากงานประจำ  จากความต้องการของลูกค้า นักนวัตกรรมของเราเหล่านั้น เขามีอะไรเป็นสิ่งขับเคลื่อน เขาผลิตคิดค้นได้อย่างไร  เขาเสาะแสวงหาเทคโนโลยีจากที่ใด เขามีพันธมิตรในการคิดค้นอย่างไร เขาได้รับการสนับสนุนหรือต้องการการสนับสนุนอะไรบ้าง เขากระจายกันอยู่ในแต่ละที่ แต่ละซอกหลืบขององค์กรเราจะเสริมพลังให้เขาอย่างไร

คำถามมากมายต้องการคำตอบ เราจะแสวงหาคำตอบเเหล่านั้นได้อย่างไร

แต่เราเชื่อว่า ผู้คนส่วนใหญ่ในองค์กรนี้เป็นคนชอบสงสัย ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ
เราคงต้องเสาะแสวงหาคำตอบต่อไป

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2559

ความสำคัญของมนุษย์

ช่วงเวลาของมนุษย์นั้นสั้นและเต็มไปด้วยความบีบคั้น ความผ่อนคลาย และความปรารถนานำความจริงความดีความงามมาสู่เราได้เพียงครั้งคราว เรายังใช้ชีวิตอยู่บนความผ่อนคลายและความปรารถนาเพียงเพื่อละเลยความบีบคั้นนั้น


การสัมผัสมนุษย์บนเงื่อนไขยังความบีบคั้นเช่นกัน ไม่มีเงื่อนไขเท่านั้นที่ทำให้มนุษย์พ้นจากความบีบคั้นได้

เงื่อนไขมาจากการยึดถือ ยีึดโยงกับสิ่งที่เรานำไปไว้สูงสุด เช่น หลักการดำเนินชีวิต ศาสนาที่ประกอบสร้าง ความจริงที่เราสัมผัสแล้ว ทั้งนี้มาจากความคิดทั้งสิ้น คิด จึงยึดโยง


เราละเลยความรู้สึก เราทิ้งสัมผัส ทิ้งใจและกาย ยึดโยงกับสมอง เราจึงเหนื่อย เมื่อยล้า ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้เราสร้างการบีบคั้น และยินดีกับมัน

ยินดีที่เรายิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่ที่เราดำรงอยู่ได้ แล้วเราก็โหยหาความบีบคั้นอีก


การสนทนากับมนุษย์อย่างไม่มีเงื่อนไขคือกุญแจที่นำเราไปสู่ ความรู้สึก สัมผัส ไร้คิด เมื่อไร้คิด รู้สึก สัมผัส ความคิดปรุงย่อมปราศจากสิ่งเจือ ปราศจากสิ่งปรุง
การสนทนาที่ไม่มีเงื่อนไขต้องการบรรยากาศและการสนับสนุน การสนทนาเป็นทักษะ ไม่ใช่ความรู้ เรียนรู้ฝึกฝนได้จากการกระทำ เราสร้างได้เพียงสภาพแวดล้อมและความจริงใจ


ความจริงใจจากความเข้าใจในมนุษย์


ความเข้าใจในมนุษย์จะขยายความรู้สึกและสัมผัสของเราให้พบความจริง ความงาม ความดี แม้ในเวลาแห่งการบีบคั้น


เมื่อนั้นเราจะเป็นอิสระ อิสระจากสิ่งยึดถือ ยึดโยง

เราสร้าง BGIC เพื่อความเป็นอิสระในการแสดงออก จากบรรยากาศ สนับสนุนให้ทักษะนี้แพร่กระจายไป


เราเชื่อมั่นว่านักนวัตกรรมเมื่อมาพบกันการสร้างเครือข่ายเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เราให้ความสำคัญกับมนุษย์มิตรไมตรีจะนำการสนทนาที่เปิดกว้างเป็นอิสระไร้เงื่อนไข นำไปสู่คำถามสำคัญที่กระตุ้นให้สงสัยใคร่ครวญ บรรยากาศผ่อนคลายและสนุก นำให้พวกเราให้ปลดปล่อยปัญญาปฏิบัติ ทำมุมมองให้ปรากฎ แลกเปลี่ยนแล้วหลอมรวมกัน ปัญญาจากการสนทนาที่เปิดกว้างบนพื้นที่แห่งมิตรไมตรี สร้างปัญญาร่วมเพื่อเราทุกคนได้เก็บเกี่ยวปัญญานี้ ปัญญาร่วม

เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองเป็นเบื้องต้น ต่อองค์กรในท่ามกลาง และต่อมนุษยชาติทั้งมวลในที่สุด




เมื่อนั้น ชีวิตที่สั้นและบีบคั้นก็ได้สร้างคุณประโยชน์

Business Group Innovation Café


 Business Group Innovation Cafe 

หลักการและเหตุผล

รวธ. มีภารกิจในการพัฒนาองค์กรแห่งนวัตกรรม โดยใช้การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างและเร่งพัฒนานวัตกรรมให้ครอบคลุมทั่วทั้งสายงาน ปัจจุบันมีการพัฒนาและสร้างผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม ในภารกิจหลักเป็นจำนวนมาก ที่สามารถนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจ หากแต่การสร้างเครือข่ายเป็นสิ่งจำเป็นในการเร่งขีดความสามารถการพัฒนาดังกล่าว โดยการนำผู้ปฏิบัติงานที่มีความสนใจในด้านนี้มาพบปะแลกเปลี่ยนกัน และใช้กระบวนการเสวนาแบบเปิดกว้าง (World Café) ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เห็นแนวทางสังเคราะห์วิธีการในการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้กว้างขวางมากขึ้น สายงาน รวธ. จึงเห็นความจำเป็นที่ควรจะต้องมีหลักสูตร Business Group Innovation Café ขึ้น เพื่อหวังผลให้ได้การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ จากปัญญาร่วมที่มาจากศักยภาพภายในบุคลากรเหล่านี้

วัตถุประสงค์

1. เพื่อสร้างเครือข่ายนักนวัตกรรม รวธ.

2. เพื่อสกัดปัญญาร่วมในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของ รวธ.

3. เพื่อกระตุ้นและเร่งขีดความสามารถในการสร้างนวัตกรรมในหน่วยงาน รวธ. 


ผู้เข้าสัมมนา
เป็นผู้บริหารจัดการสิ่งประดิษฐ์/นวัตกรรม นักคิด นักสร้างสรรค์ผลงานสิ่งประดิษฐ์/นวัตกรรม และผู้ที่กำลังสนใจที่จะพัฒนางานด้วยสิ่งประดิษฐ์/นวัตกรรม ภายในสายงานรองผู้ว่าการพัฒนาธุรกิจ